Ariyasound อริยะ สุพรรณเภษัช มหายาน ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร ดนตรีสวรรค์เพื่อการพัฒนาจักระและพลังสมาธิระดับสูง
ReadyPlanet.com
dot dot
สมันตมุขปริวรรต สัทธรรมปุณพริกสูตร กวนอิม พระอวโลกิเตศวร
ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร  ฉบับแสงธรรมแห่งผูโถ่วซาน  อรรถกถาธรรม โดย อริยะ สุพรรณเภษัช
วัชรปรัชญาปารมิตาสูตร สุภูติ วัชรสูตร มหายาน วัชรยาน อริยะ สุพรรณเภษัช หนังสือภาพหายาก ariyasound
ท่องแดนสุขาวดี  พระอมิตภะ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ พระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์ พระมหาสถามปราบโพธิสัตว์ พระมหาสถามปราบมหาโพธิสัตว์ พระอมิตาพุทธเจ้า แดนสวรรค์ อามิตตาพุทธ มหายาน วัชรยาน เจ้าแม่กวนอิม   สุขาวดีวยูหสูตร   มหายาน วัชรยาน อริยะ สุพรรณเภษัช
พระพุทธเจ้า ประวัติพระพุทธเจ้า buudha
ทิพยจักษุ พระพุทธเจ้า ตาทิพย์  อริยะ สุพรรณเภษัข
ดนตรีสวรรค์ ดนตรีพัฒนาจักระ  พัฒนาจักระ จักระ โยคะ โยคี อริยะ สุพรรณเภษัช ศูนย์อภิวัฒน์ปัญญา ariyasound
กวนอิม พระอวโลกิเตศวร พระโพธิสัตว์ เสถียร โพธินันทะ อริยะ สุพรรณเภษัช
คุณธรรมพระโพธิสัตว์ เสถียร โพธินันทะ มหายาน เสียง เสถียรสุต อริยะ สุพรรณเภษัช ariyasound




ดนตรีสวรรค์เพื่อการพัฒนาจักระและพลังสมาธิระดับสูง

 

                                                             ดนตรีสวรรค์เพื่อการพัฒนา

จักระและพลังสมาธิระดับสูง
 
แนวทางใหม่แห่งการพัฒนาศักยภาพมนุษย์
 
 
 
เหมาะสำหรับนักพลังจักรวาลทุกระดับ
และผู้ต้องการพัฒนาพลังจิตระดับสูง

 
               
                 อาจารย์อริยะ สุพรรณเภษัช
                   นักพลังจักรวาลระดับ 7 พิเศษ
                                      
 
 
 
 
 
 
 
บทที่
 
คลื่นเสียง   คือ   คลื่นความดันที่เคลื่อนที่ไปในอากาศ และมีคุณสมบัติเป็นคลื่นตามยาว การเคลื่อนที่ของเสียงไปในอากาศเคลื่อนที่ได้โดยที่อากาศไม่ได้เคลื่อนที่ตามไปด้วย อากาศเพียงแต่สั่นไปมาเมื่อมีเสียงเดินทางผ่านไปเท่านั้นเสียงอาจเคลื่อนที่ไปในของเหลว เช่น น้ำ หรือของแข็ง เช่น เหล็ก ได้เช่นเดียวกับเมื่อเคลื่อนที่ไปในอากาศ คลื่นเสียงเคลื่อนที่ไปในเหล็กได้เร็วกว่าเคลื่อนที่ไปในอากาศถึงสิบห้าเท่า และเคลื่อนที่ไปในน้ำเร็วกว่าเคลื่อนที่ในอากาศสี่เท่า
คลื่นเสียงแบ่งออกได้เป็นสองชนิด คือ คลื่นเสียงธรรมดา และ คลื่นเสียงรบกวน
คลื่นเสียงธรรมดาเป็นคลื่นเสียงที่มีความยาวคลื่นเป็นระเบียบจึงทำให้รื่นหูผู้ฟัง หรือเสียงที่เราต้องการสื่อสารกัน แต่คลื่นเสียงรบกวนทำให้เราเดือดร้อนรำคาญ เช่น เมื่อโยนหนังสือลงบนพื้นขณะที่หนังสือตกก ระทบพื้น จะทำให้อากาศสั่นสะเทือนอย่างไม่เป็นระเบียบ ทำให้ตกใจหรือดังเกินไป จนเรารู้สึกไม่ชอบ   คลื่นเสียงรบกวนอาจเป็นเสียงดังหรือเสียงค่อยก็ได้ เสียงพลุเป็นเสียงรบกวนชนิดเสียงดัง ส่วนเสียงน้ำหยดดังติ๋ง ๆ จากก๊อกเป็นเสียงรบกวนชนิดค่อย ซึ่งแม้จะค่อยมากแต่ก็อาจทำให้เราเดือดร้อนรำคาญได้มากเช่นกัน
คลื่นเสียงเป็นคลื่นตามยาว เกิดจากการสั่นของวัตถุ มนุษย์ได้ยินเสียงในคลื่นความถี่ 20-20,000 Hz เสียงที่ต่ำกว่า 20 Hz เรียกว่า คลื่นเสียงอินฟราโซนิก และคลื่นเสียงที่มีความถี่สูงกว่า 20,000 Hz เรียกว่า คลื่นเสียงอุลตราโซนิก เรารับฟังไม่ได้

คลื่นเสียงในอากาศเป็นคลื่นตามยาวกล่าวคือ อนุภาคของอากาศที่กระจายคลื่นจะสั่นในทิศทางที่คลื่นเคลื่อนไป ต่างไปจากคลื่นแสง คลื่นความร้อน คลื่นวิทยุ หรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอื่น ๆ ที่กระจายออกสู่อากาศตรงที่คลื่นเหล่านี้เป็นคลื่นตามขวาง เพราะสนาม ไฟฟ้าและสนามแม่เหล็กในคลื่นสั่นในทิศตั้งฉากกับทิศของคลื่นเอง
 
คลื่นเสียงกับดนตรี
     เราพบว่าดนตรีเกิดขึ้นจากการประสานเรียงร้อยของคลื่นเสียงอาจมาจากแหล่งกำเนิดคลื่นแหล่งเดียวหรือหลายแหล่งกำเนิดก็ได้มาผสมผสานกัน เราพบว่าคลื่นเสียงจากกลุ่มดนตรีต่างกันก็มีอิทธิพลต่อมนุษย์ที่แตกต่างกัน โดยคลื่นเสียงจากดนตรีจะไปกระตุ้นการทำงานของสมองส่วนนีโอคอร์เทกซ์ ระบบประสาทอัตโนมัติในสมองส่วนLimbic system และBrain stemทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย,จิตใจ และอารมณ์ ดังนี้
 
 
          ด้านร่างกาย/ระบบสรีรวิทยา คลื่นเสียงจากดนตรีจะเปลี่ยนแปลง อัตราการเต
ของหัวใจ,ความดันโลหิต,การไหลเวียนของโลหิต(ระบบประสาทอัตโนมัติ ระบบซิมพาเท
ติก/ระบบพาราซพาเทติก) ,การตอบสนองทางม่านตา( ออกซิพิตัลโลบ/สมองส่วนกลาง)
และความตึงตัวของกล้ามเนื้อ (พาไรทัลโลป)จิตใจ มีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ สติ
ความนึกคิด เช่น ระดับเสียงสูง ส่งเสริมให้เกิดความตึงเครียด(ระบบซิมพาเทติก )ระดับ
เสียงต่ำ ส่งเสริมให้เกิดความผ่อนคลาย(ระบพาราซิมพาเทติก) จังหวะเร็ว กระตุ้นให้
อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น (ระบบซิมพาเทติก ) ความดัง กระตุ้นให้ตื่นตัว(ระบบซิม
พาเทติก )อารมณ์ ดนตรีจะกระตุ้นสภาวะทางอารมณ์ บันดาลให้เกิดความรู้สึกพึงพอใจ
(นีโอคอร์เทกซ์) จังหวะลีลาและท่วงทำนองประสานเสียงและความรู้สึกทางดนตรี จะเป็น
ตัวกำหนดวิธีการตอบสนองของอารมณ์และจิตใจ (นีโอคอร์เทกซ์)
          ตัวอย่างเช่น คลื่นเสียงจากกลุ่มดนตรีฮาร์ดร๊อค ทำให้เราเกิดหัวใจเต้นแรง กระตุ้นร่างกายให้เกิดการเคลื่อนไหว ส่วนคลื่นเสียงจากกลุ่มดนตรีเสียงธรรมชาติ จะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย,อยากพักผ่อน และจิตใจสงบลง   คลื่นเสียงจากดนตรีบางประเภทเช่นดนตรีพัฒนาคลื่นสมอง จะช่วยทำให้ความถี่ของคลื่นสมองลดลง ความดันโลหิตลดลง หัวใจเต้นช้าลง มีสมาธิเพิ่มมากขึ้น เป็นต้น ฉะนั้นการที่ดนตรีที่ต่างกันก็จะให้คลื่นเสียงออกมาที่ต่างกันซึ่งให้ผลกระทบต่อร่างกาย,อารมณ์และจิตใจที่ต่างกัน จึงควรให้ความสำคัญในการเลือกรับฟังดนตรีในชีวิตประจำวันเป็นอย่างยิ่ง
 
 
 
                        บทที่ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับจักระ (Chakra )
 
. ศาสตร์ทางโยคะกล่าวว่า ร่างกายของมนุษย์มีจุดสำคัญ 7 จุด ที่เรียกว่าจักระ(Chakra) ซึ่งเป็นทึ่ตั้งของศูนย์ประสาทใหญ่และต่อมไร้ท่อที่สำคัญ เมื่อจักระเหล่านี้ถูกกระตุ้นให้มีศักยภาพทำงานสูงขึ้น ก็จะช่วยในการพัฒนาศักยภาพการทำงานของระบบประสาท,ช่วยในการพัฒนาระบบต่อมไร้ท่อและระบบฮอร์โมนในร่างกาย ,พัฒนาศักยภาพของการเดินทางของกระแสประสาท รวมทั้งพัฒนาศักยภาพการทำงานของสมองด้วยเป็นปัจจัยเกื้อหนุนต่อการพัฒนาสติปัญญาเป็นอย่างมาก   นอกจากนั้นยังเป็นการพัฒนาพลังจิตและสมาธิตลอดจนความคิดสร้างสรรค์ในระดับสูงด้วย
 
 
 
จักระ" (CHAKRA) คืออะไร (สุวินัย ภรณวลัย ,www.suvinai-dragon.com)

 
 
 
จักระก็คือ ศูนย์พลังงาน (FORCE CENTER) ของมนุษย์ ที่อยู่ในสภาพเป็นวงล้อหรือ
กงจักระหมุน
จักระคือ สภาพแห่งคลื่นของพลังที่สามารถเปล่งพลังออกมาได้
จักระจึงคือ บ่อน้ำพุที่ให้กำเนิดพลังงานอันแสนมหัศจรรย์ของมนุษย์โดยผ่านการขับฮอร์โมน เอ็นไซม์ และวิตามิน ออกมาช่วยทำให้มนุษย์สามารถธำรงค์รักษากายภาพแห่งความเป็นมนุษย์เอาไว้ได้ หรือเป็นอะไรที่ยิ่งกว่านั้นได้
เราสามารถเข้าใจ และตระหนักถึงความสำคัญอย่างยิ่งยวดที่จักรทั้งเจ็ดมีต่อชีวิตมนุษย์นี้ได้ โดยผ่านการทำความเข้าใจถึงการทำงานของต่อมต่าง ๆ ที่เป็นที่ตั้งของจักรทั้งเจ็ด
 
 


 
 

 
 
 
 
ซึ่งจากภาพถ่ายทางวิทยาศาสตร์ที่ถ่ายจับคลื่นความร้อนของร่างกาย ก็สามารถพบลักษณะพิเศษตามจุดต่าง ๆ ในร่างกายใกล้เคียงกับที่ตั้งของจักระตามคำกล่าวของศาสตร์ทางโยคะ นับว่าเป็นการยืนยันความถูกต้องของความมีอยู่ของจักระในร่างกายมนุษย์ทางกายภาพ  
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
จากรูปข้างล่างแสดงต่อมไร้ท่อที่ผลิตฮอร์โมนที่สำคัญในร่างกายมนุษย์
 
 

รายละเอียดที่สำคัญเกี่ยวกับต่อมไร้ท่อที่สำคัญในร่างกายมนุษย์
ต่อมไพนีล PINEAL GLAND
ต่อมนี้ถือเป็น "ต่อมหลัก" ที่ทำหน้าที่ควบคุมต่อมอื่น ๆ อีกที ต่อมนี้ยาวเพียงครึ่งนิ้ว สี
แดง มีลักษณะเหมือนเมล็ดต้นสน หนักเพียง 0.2 กรัม ต่อมนี้จะโตเต็มที่เมื่อมนุษย์มีอายุราว ๆ 7 - 8 ขวบ หลังจากนั้นจะค่อย ๆ เสื่อมสภาพลง เชื่อกันว่า ต่อมไพนีลทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนที่ควบคุมวุฒิภาวะทางเพศ กิจกรรมทางเพศ และอิริยาบถต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ฮอร์โมนนั้นก็คือ เมลาโทนิน (MELATONIN) นอกจากนี้ต่อมนี้ยังผลิตฮอร์โมนเซราโทนิน (SERATONIN) ที่สัมพันธ์อยู่กับหน้าที่ของความคิดที่เกี่ยวกับเหตุผล
เป็นที่เชื่อกันว่าต่อมไพนีลนี้เป็นต่อมที่มีความฉับไวต่อแสงสว่างเป็นพิเศษ ต่อมนี้คงจะเป็นร่องรอยเดิมของ "ตาที่สาม" ของมนุษย์ที่ค่อย ๆ หายเข้าไปในสมอง เหมือนกับ "ตาที่สาม" ของจิ้งจก ตุ๊กแก ที่อยู่บนศรีษะ ซึ่งทำหน้าที่ฉับไวในการรับแสงสว่างและควบคุมลีลาจังหวะธรรมชาติในวงจรชีวิต เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากที่ตั้งแต่เมื่อหลายพันปีก่อนแล้ว ที่พวกโยคีและพวกเซียนได้พูดถึง "ตาที่สาม" ซึ่งอยู่ "ตรงศูนย์กลางของสมอง" โดยกล่าวว่าเป็น "ดวงตาแห่งปัญญาญาณ" ซึ่งถ้าหากได้ผ่านการฝึกฝนปฏิบัติ และพัฒนาอย่างถูกวิธีตามหลักวิชาโยคะ หรือวิชาเต๋า โดยสามารถควบคุมให้เหมาะสมได้แล้ว ผู้นั้นจะสามารถผนึกตนเองเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับ "สภาวะที่สูงส่งทางจิตวิญญาณ" ได้
เนื่องจากความฉับไวในการรับแสงของต่อมไพนีลในเวลากลางคืน ท่ามกลางไฟมืด จะทำให้ปริมาณของฮอร์โมนเมลาโทนินที่หลั่งออกมาจากต่อมไพนีลจะสูงมาก ขณะที่ปริมาณที่ถูกขับออกของฮอร์โมนเซราโทนินจะลดต่ำมาก เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะก่อให้เกิดสภาวะแห่งการพักผ่อนและผ่อนคลายของกายและจิต ทำให้ผู้นั้นสามารถหลับได้แต่พอในตอนกลางวัน สิ่งต่าง ๆ จะเกิดในทางตรงกันข้าม กล่าวคือปริมาณของฮอร์โมนเมลาโทนินจะลดลง ขณะที่ปริมาณของฮอร์โมนเซราโทนินจะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะก่อให้เกิดสภาพของความคึกคักเคลื่อนไหวที่ปราศจากการพักผ่อน อนึ่งสีเขียวมีบทบาทสามารถลดปริมาณฮอร์โมนเซราโทนินที่ต่อมไพนีลผลิตออกมาได้ เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ความเขียวชอุ่มของต้นไม้ ป่าไม้ จะช่วยส่งเสริมให้อารมณ์ของคนเราสงบ คลายเครียด ได้พัก
การฝึกออกกำลังกายด้วยวิธีโยคะ หรือวิธีเต๋า รวมทั้งการฝึกสมาธิแบบโยคะ หรือเต๋า ก็ส่งผลสะเทือนอย่างสูงต่อการทำงานของต่อมไพนีล ในทิศทางที่ทำให้ฮอร์โมนเมลาโทนินเพิ่มขึ้น และฮอร์โมนเซราโทนินลดลงเช่นกัน เมื่อเป็นดังนั้น จิตและกายก็จะผ่อนคลาย สงบ จมดิ่งลงไปสู่สภาวะของความมีสติสำนึกที่ลึกล้ำยิ่งขึ้น
หลักวิชาของโฮโม-เอ็กเซลเลนส์ จึงมุ่งไปยังการฝึกควบคุมการทำงานของต่อมไพนีล ให้ขับฮอร์โมนเซราโทนินให้น้อยลง เพื่อเข้าสู่สภาวะจิตอันสูงส่งที่จะประสบกับแสงสว่างอันสุกใส รู้สึกสุขอย่งดื่มด่ำล้ำลึกและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับจักรวาล อันเป็นสภาวะของการสลายตัวตน (อัตตา) อันเล็กที่ทำลายความแตกต่างแบ่งแยกระหว่างตัวตนของเรากับสรรพสิ่งรอบ ๆ ตัว

(2) ต่อมพิตทูอิทารี PITUITARY GLAND

ต่อมนี้ก็ถือเป็น "ต่อมหลัก" (MASTER LAND) เช่นเดียวกับต่อมไพนีลมีขนาดใหญ่เท่า
กับเมล็ดถั่ว น้ำหนักราว ๆ 0.8 กรัม อันที่จริงหน้าที่ของต่อมพิตทูอิทารีนี้ เป็นเพียงสถานีส่งผ่านถ่ายทอดฮอร์โมนต่าง ๆ ไปยังต่อมอื่น ๆ หรืออวัยวะส่วนอื่น ๆ ของร่างกายเท่านั้น โดยที่ต่อมพิตทูอิทารีนี้จะต้องรับคำสั่งและข่าวสารจาก "ไฮโพทาลามัส" (HYPOTHALAMUS) อีกต่อหนึ่ง (ดูรูปภาพ (ง) ประกอบ)
"ไฮโพทาลามัส" คืออวัยวะในสมองที่ทำหน้าที่ประสานงานระหว่างระบบประสาทกับระบบต่อมต่าง ๆ รวมทั้งยังทำหน้าที่ควบคุมปฏิกิริยาของร่างกายที่มีต่อสภาวะอารมณ์อันปั่นป่วนต่าง ๆ ด้วย (อวัยวะ "ไฮโพทาลามัส" นี้มีความสำคัญมากที่สุดในหลักวิชาของโฮโม-เอ็กเซลเลนส์ ซึ่งผมคงจะนำมากล่าวถึงโดยละเอียดในภายหลัง)
ต่อมพิตทูอิทารี สามารถแบ่งได้ออกเป็น 3 ส่วน คือ กลีบหน้า กลีบกลาง และกลีบหลัง ฮอร์โมนที่ถูกขับออกมาจาก "กลีบหน้า" ที่สำคัญมีอยู่ 6 ชนิด ดังต่อไปนี้คือ
(ก) ฮอร์โมนกระตุ้นการเจริญเติบโต (STN)
(ข) ฮอร์โมนกระตุ้นต่อมเพศ (GTH)
(ค) ฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์ (TSH)
(ง) ฮอร์โมนกระตุ้นต่อมอะดรีนัล (ACTH)
(จ) ฮอร์โมนกระตุ้นต่อมพาราไทรอยด์
(ฉ) ฮอร์โมนกระตุ้นต่อมนม (LTH)
จะเห็นได้ว่าฮอร์โมนที่ถูกขับออกมาจาก "กลีบหน้า" ของต่อมพิตทูอิทารีนั้น ได้ควบคุม
หรือมีบทบาทอย่างสำคัญต่อการทำงานของต่อมหลัก ๆ ในร่างกายเกือบทั้งหมดเลยทีเดียว สำหรับฮอร์โมนที่ถูกขับออกมาจาก "กลีบกลาง" นั้น ที่สำคัญคือ ฮอร์โมนที่ทำให้ผิวหนังเป็นสีดำคล้ำ ส่วนฮอร์โมนที่ถูกขับออกมาจาก "กลีบหลัง" นั้นที่สำคัญมีอยู่ 2 ชนิด คือ ฮอร์โมนที่ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นกับดูดซับน้ำ และฮอร์โมนที่ทำให้กล้ามเนี้อบริเวณลำไส้ กระเพาะปัสสาวะหดตัว
 
(3) ต่อมน้ำลาย SALIVARY GLAND
ต่อมนี้นอกจากจะผลิตน้ำลายแล้ว ยังผลิตฮอร์โมนชนิดหนึ่งออกมาซึ่งทำหน้าที่กระตุ้น

การเจริญเติบโตของอวัยวะที่แข็ง ๆ ในร่างกายคน อย่างกระดูกและฟัน
นอกจากนี้ยังมีบทบาทในการชะลอความชราอีกด้วย

(4) ต่อมพาราไทรอยด์ PARATHYROID GLAND

ต่อมนี้มีขนาดเล็กเท่ากับเมล็ดข้าว อยู่ติดต่อมไทรอยด์ด้านหลัง ต่อมนี้ผลิตฮอร์โมนออก
มาชนิดหนึ่ง ที่ทำหน้าที่ควบคุมระดับความเข้มข้นของแคลเซี่ยมในกระแสเลือด กับช่วยการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน ถ้าร่างกายขาดฮอร์โมนประเภทนี้ จะทำให้เกิดโรคทางประสาท โรคตา ผิวหนัง ผมหยาบกระด้าง แต่ถ้าร่างกายมีฮอร์โมนประเภทนี้มากเกินไป ก็จะทำให้เป็นโรคกระดูกเปราะ

(5) ต่อมไทรอยด์ THYROID GLAND
ต่อมนี้มีลักษณะคล้ายผีเสื้อที่เกาะอยู่บนหลอดเสียงบนลำคอ ทำหน้าที่คล้ายกับคันเร่ง
ของรถยนต์ กล่าวคือต่อมไทรอยด์นี้เป็นตัวเร่งการทำงานของร่างกายหรือทำให้ช้าลง โดยผ่านการควบคุมการเผาผลาญอาหารในร่างกายการควบคุมอุณหภูมิในร่างกายให้คงที่ กับควบคุมการผลิตพลังงานในร่างกายให้คงที่ นอกจากนี้ ต่อมนี้ยังทำหน้าที่ควบคุมการเจริญเติบโต และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ อีกทั้งยังควบคุมกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับของเสียในร่างกายอีกด้วย
เพราะฉะนั้นการที่คนเราจะใช้ชีวิตอย่างซึมเซาไร้ชีวิตชีวา หรือใช้ชีวิตอย่างคึกคัก กระตือรือร้น ก็ขึ้นอยู่กับฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ที่ขับออกมานี้ด้วยเช่นกัน โดยปกติในวันหนึ่ง ๆ ฮอร์โมนต่อมไทรอยด์จะถูกขับออกมาราว ๆ 1/100 มิลลิเมตร เมื่อมนุษย์เราเริ่มแก่ตัวลง ต่อมไทรอยด์ก็จะเริ่มเสื่อมถอยลงด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกที่คนชรามักกลายเป็นคนขี้หนาวทั้งนี้ก็เพราะว่าการเกิดความร้อนในร่างกายเริ่มไม่พอเพียง เนื่องจากการทำงานของต่อมไทรอยด์เสื่อมลง
 
 
 
 
 

(6) ต่อมไทมัส THYMUS GLAND
ต่อมนี้ตั้งอยู่บนด้านหลังของกระดูกทรวงอก บริเวณเหนือหัวใจ ในบรรดาอวัยวะภายใน
ทั้งหมด ต่อมนี้เป็นอวัยวะที่เสื่อมถอยเร็วที่สุด กล่าวคือในวัยเด็กทารก ต่อมนี้จะมีขนาดใหญ่มาก แต่เมื่อแตกเนื้อหนุ่มมันจะค่อย ๆ หดเล็กลงเหลือเพียง 1/4 ของขนาดเดิมเท่านั้น ต่อมไทมัสนี้มีบทบาทสำคัญในการควบคุมภูมิคุ้มกันโรคในร่างกายของคนเรา

(7) ตับอ่อน PANCREAS
ตับอ่อนอยู่ในบริเวณเกือบใต้กระเพาะอาหาร ตับอ่อนนอกจากจะหลั่งน้ำย่อยที่ใช้ในการ

ย่อยอาหารลงในลำไส้เล็กแล้ว มันยังหลั่งฮอร์โมนที่มีชื่อว่าอินซูลินออกมาอีกด้วย
อินซูลินมีหน้าที่ช่วยลดปริมาณของกลูโคสในกระแสเลือดให้น้อยลง ความบกพร่องในตับอ่อนจะก่อให้เกิดโรคเบาหวานขึ้นได้

(8) ต่อมอะดรีนัล ADRENAL GLAND

ว่ากันว่าต่อมนี้มีความสำคัญรองจากต่อมพิตทูอิทารีเท่านั้น เพราะเป็นต่อมที่มีบทบาท
เฉพาะยามเกิดเหตุฉุกเฉินวิกฤตที่ทำให้ต้อง "สู้" ต่อมนี้จะผลิตฮอร์โมน ซึ่งให้พลังงานในการต่อสู้หรือมีพฤติกรรมอย่างกล้าหาญในยามฉุกเฉินสูงกว่ายามปกติถึง 10 เท่า
ฮอร์โมนนั้น เรียกว่าอะดรีนาลีน
ในสภาวะวิกฤตที่ร่างกายจำเป็นต้องใช้กำลังกล้ามเนื้อทุกส่วน สมองของคนเราจะสั่งการฉับพลันส่งข่าวสารนี้ไปยังต่อมอะดรีนัล ต่อมนี้จะผลิตอะตรีนาลีนออกมา ให้เข้าไปในกระแสโลหิต ซึ่งฮอร์โมนนี้จะช่วยกระตุ้นหัวใจ และช่วยขยายเส้นโลหิตที่นำเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อให้ใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นต่อมเหงื่อให้ทำงานเพื่อร่างกายจะได้เย็นลง
อะดรีนาลีนยังช่วยถ่วงการเคลื่อนไหวของอวัยวะที่ใช้ในการย่อยอาหารให้ช้าลง และช่วยถ่วงการหดตัวของเส้นเลือดให้ช้าลงด้วย ซึ่งจะไปทำให้ตับต้องปลดปล่อยน้ำตาลสำรองออกมาให้แก่กล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อมีพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างเหลือเฟือในชั่วขณะหนึ่ง อะดรีนาลีนยังทำให้เส้นขนตั้งโด่ชูชันขึ้น และขยายช่องตาดำกับดวงตาให้เบิกกว้าง เพื่อว่าคนผู้นั้นจะได้ดูน่าเกรงขามยิ่งขึ้น
ผู้ที่มีต่อมอะดรีนัล ที่ไม่สามารถหลั่งสารอะดรีนาลีนออกมาได้อย่างเพียงพอ จะไม่สามารถโต้ตอบต่อวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมทันกาลในทางกลับกัน ถ้าคนใดมีต่อมอะดรีนาลีนออกมามากเกินไปคนผู้นั้นก็จะอยู่ในสภาวะของความตึงเครียดทางประสาทอย่างต่อเนื่องยาวนาน

(9) ต่อมให้กำเนิดเซลล์สืบพันธุ์ SEX GLAND

ต่อมให้กำเนิดเซลล์สืบพันธุ์ (ของสตรีคือรังไข่ ของบุรุษคือลูกอัณฑะ) หรือต่อมเพศนี้จะ
ทำหน้าที่ที่เกี่ยวกับกิจกรรมทางเพศทั้งหมด ต่อมนี้ไม่เพียงแต่จะผลิตเซลล์สืบพันธุ์ออกมาเท่านั้น หากยังผลิตสารฮอร์โมนที่ควบคุมพัฒนาการทางกายภาพของร่างกายเรา กับควบคุมพฤติกรรมทางเพศของเราแต่ละคนด้วย
 
 
 
ต่อมเพศจะหลั่งฮอร์โมนแอนโดรเจน (ANDROGEN) กับฮอร์โมนเอสโทรเจน (ESTROGEN) ออกมาโดยที่แอนโดรเจนเป็นฮอร์โมนเพศชาย และเอสโทรเจนเป็นฮอร์โมนเพศหญิง แอนโดรเจนจะเพิ่มมวลของกล้ามเนื้อในร่างกายให้มากขึ้น และโน้มนำให้เกิดพฤติกรรมที่ก้าวร้าวรุนแรง ส่วนเอสโทรเจนจะเพิ่มความอ่อนนุ่ม เพิ่มไขมัน และโน้มนำให้เกิดพฤติกรรมที่ใฝ่สันติ ในร่างกายของคนเราทุกคนจะผลิตทั้งแอนโดรเจนและเอสโทรเจนออกมา และความได้สัดส่วนของฮอร์โมนสองชนิดนี้ จะทำให้บุคลิกภาพของคนผู้นั้นมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น (มีเอกภาพระหว่างหยินกับหยัง)

ขั้นแรกของหลักวิชาโฮโม - เอ็กเซลเลนส์ จะเริ่มที่การฝึกฝนจักร "มูลธาร" เพื่อสร้างและพัฒนา "ต่อมเพศ" ให้เข้มแข็งก่อนเป็นสำคัญ เพราะต่อมเพศนี้แหละ คือแหล่งพลังที่สำคัญที่สุดในการดำเนินกิจกรรมทั้งปวงของมนุษย์ หลักวิชาของโฮโม - เอ็กเซลเลนส์นั้น มุ่งที่จะพัฒนาและควบคุมพลังทางเพศที่รุนแรงนี้ ไปในทิศทางที่ก่อให้เกิดสติปัญญา และพลังกายที่เข้มแข็งเพื่อนำไปใช้ในการทำงานที่สร้างสรรค์
 
จากภาพพบว่ามาสเตอร์ทางโยคะได้มีการจับคู่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างจักระกับต่อมไร้ท่อในร่างกาย ทำให้เป็นการเน้นย้ำอย่างแจ้งชัดระหว่างหน้าที่ของจักระที่มีอิทธิพลต่อการควบคุมการทำงานของต่อมไร้ท่อในร่างกายมนุษย์
 
 
รายละเอียดจักระสำคัญทั้ง 7 จุด
 
จักระ 1 มูลธาร (ดอกบัว 4 กลีบ)
ตั้งอยู่ตรงกระดูกก้นกบที่ปลายสุดของกระดูกสันหลัง (กระดูกกระเบนเหน็บปล้องที่ 4) อยู่ระหว่างอวัยวะเพศ และทวารหนัก เป็นรากฐานของระบบจักระ หรือระบบพลังงาน เป็นพื้นฐานของพลังชีวิต และเป็นกลไกที่ทำให้สืบทอดพันธุ์เป็นมนุษย์อยู่ในโลกทุกวันนี้ 
 
 
ศูนย์พลัง
สีแดง
ที่ตั้ง
กันกบ
ธาตุ
ดิน
ต่อมไร้ท่อและอวัยวะที่จักรควบคุม
ต่อมเพศ,ไต
หน้าที่
เป็นรากฐานของระบบจักระหรือระบบพลังงาน เป็นพื้นฐานของพลังชีวิต และเป็นกลไกที่ทำให้สืบทอดพันธุ์ทำให้ร่างกายแข็งแรง มีชีวิตชีวา มีสัญชาตญาณในการต่อสู้เพื่อตัวเอง มีภูมิต้านทานดี
คีย์โน้ตและเสียงสระประจำจักร์
เสียงC("โด"),เสียงสระอู
ดนตรีที่สร้างความสมดุลประจำจักร์
เบสและเครื่องดนตรีให้จังหวะ
อัญมณี , แร่ธาตุ
อัญมณีสีแดง แร่ธาตุสีแดง
อาหาร
โปรตีนสีแดง เช่น พวกเนื้อแดงต่าง ๆ ผลไม้ ผัก พืชสีแดง
ถ้ามีคุณภาพหรือได้เรียนรู้
จะสามารถมีสุขภาพพลานมัยที่ดี แข็งแรง มีความสำเร็จในทางวัตถุ แบบนักวัตถุนิยมที่มีความสำเร็จ มีความมั่นคงทั้งทางกายและจิตใจ มีความอดทน มีความกล้าหาญในการต่อสู้เพื่อความอยู่รอด
ถ้าไม่มีคุณภาพหรือมีพลังน้อย
โลภ เป็นคนเห็นแก่ตัว มีความอ่อนแอ มักโกรธ มีความเครียด ท้องผูกเสมอ ปวดตามกระดูกสันหลัง
 
 
 
 
 
จักระ 2 สวาธิษฐาน (ดอกบัว 6 กลีบ)
อยู่ตรงปลายก้นกบ บริเวรณกระดูกเอวปล้องที่ 1 เป็นศูนย์กลางเกี่ยวกับพลังทางเพศ รวมทั้งความเชื่อมั่นในตนเองควบคุมระบบการสืบพันธุ์, การขับกากอาหารและของเสียออกจากร่างกาย (ระบบการขับถ่าย) รวมทั้งการตั้งครรภ์และการคลอด
 
ศูนย์พลัง
สีส้ม
ที่ตั้ง
สะดือ
ธาตุ
น้ำ
ต่อมไร้ท่อและอวัยวะที่จักรควบคุม
ต่อมอะดรีนัล,ตับอ่อน
หน้าที่
ควบคุมระบบการสืบพันธ์ การขับกากอาหารและของเสียออกจากร่างกาย ให้เกิดความรู้สึกทางเพศ นำอาหารไปหล่อเลี้ยงร่างกาย ทำให้มีชีวิตชีวา
คีย์โน้ตและเสียงสระประจำจักร์
เสียงD("เร"),เสียงสระโอ
ดนตรีที่สร้างความสมดุลประจำจักร์
เบสและเครื่องดนตรีประเภทตี,เคาะและเป่า
อัญมณี , แร่ธาตุ
อัญมณีสีส้ม โกราล แร่ธาตุสีส้ม
อาหาร
ส้มและน้ำส้ม ผลไม้ ผัก พืชสีส้ม
ถ้ามีคุณภาพหรือได้เรียนรู้
จะสามารถรู้จักให้และรับ ควบคุมอารมณ์ได้ดี ชอบความเปลี่ยนแปลง ยอมรับความคิดใหม่ ๆ แปลก ๆ รู้จักยอมตัวอยู่ร่วมกับครอบครัวได้ดี มีความคิดในทางสร้างสรรค์ร่วมกับเพื่อนมนุษย์
ถ้าไม่มีคุณภาพหรือมีพลังน้อย
มักมากในกามคุณ มีปัญหาเรื่องทางเพศ สับสน วุ่นวาย เห็นแก่ตัว อิจฉา ริษยา ต้องการที่จะครอบครองทั้งที่ไม่สามารถ มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะ ไร้สมรรถภาพทางเพศ
 
 
 
 
 
 
 
 
จักระ 3 มณีปุระ(ดอกบัว 8 กลีบ)
อยู่ตรงแนวสะดือตัดกับกระดูกสันหลัง เป็นศูนย์กลางของการหยั่งรู้ ณ จุดนี้เป็นศูนย์กลางของร่างกาย ควบคุมระบบการย่อยอาหารและการขับถ่ายของเสีย
 
ศูนย์พลัง
สีเหลือง
ที่ตั้ง
กลางหัวใจกับสะดือ
ธาตุ
ไฟ
ต่อมไร้ท่อและอวัยวะที่จักรควบคุม
โซล่าเพลกซัส,ต่อมอะดรีนัล,ตับอ่อน,ม้าม,ตับ,กระเพาะอาหารต
หน้าที่
ช่วยให้ระบบประสาททำงานได้ดี ควบคุมระบบย่อยอาหารและการขับถ่ายของเสีย ช่วยการสันดาบ ( metabolism ) ควมคุมอารมณ์
คีย์โน้ตและเสียงสระประจำจักร์
เสียงE("มี"),เสียงสระอา
ดนตรีที่สร้างความสมดุลประจำจักร์
ขล่ย เครื่องเป่า เครื่องสาย และเปียโน
อัญมณี , แร่ธาตุ
อัญมณีสีเหลือง แก้วตาเสือ ทองคำ แร่ธาตุสีเหลือง
อาหาร
ผลไม้ ผัก พืชสีเหลือง
ถ้ามีคุณภาพหรือได้เรียนรู้
จะสามารถมีความมั่นใจในตัวเอง มีเจตน์จำนงค์แน่วแน่ ควบคุมความต้องการของตนเองได้ ตื่นตัวเสมอ มีอารมณ์ขัน มีความร่าเริงแจ่มใส เชื่อในความเป็นอมตะ
ถ้าไม่มีคุณภาพหรือมีพลังน้อย
เป็นคนที่มีความหวาดระแวง ไม่เชื่อมั่นในตัวเอง มักมีความโกรธ เกลียด มีปัญหาระบบขับถ่ายและย่อยอาหาร
 
 
 
 
 
 
 
 
 
จักระ 4 อนาหตะ (ดอกบัว 10 หรือ 12 กลีบ)
อยู่ตรงแนวหัวใจตัดกับกระดูกสันหลัง บริเวณกระดูกสันหน้าอกปล้องที่1,2และ3) เป็นศูนย์รวมของความรักที่แท้จริง รวมทั้งการพัฒนาจิตใจ ด้วยความเมตตากรุณา และความเสียสละ ควบคุมระบบหมุนเวียนโลหิต, หัวใจและระดับไขมันในเส้นเลือด
 
ศูนย์พลัง
สีเขียว
ที่ตั้ง
ทรวงอก
ธาตุ
ลม
ต่อมไร้ท่อและอวัยวะที่จักระควบคุม
ต่อมไทมัส,หัวใจ,ปอด
หน้าที่
ควบคุมระบบหมุนเวียนโลหิต ,หัวใจและระดับไขมันในเส้นเลือด รับพลังมาจากจักรวาล เทพ หรือวิญญาณชั้นสูง ทำให้เกิดพลังชีวิตที่สมบูรณ์ โลหิตไหลเวียนดี ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง
คีย์โน้ตและเสียงสระประจำจักร์
เสียงF/F#("ฟา"),เสียงสระเอ
ดนตรีที่สร้างความสมดุลประจำจักร์
พิณ ออร์แกน เปียโน และเครื่องสายทั้งหมด
 
 
อัญมณี , แร่ธาตุ
หยก เพชร พลอย สีมรกต
อาหาร
ผลไม้ ผัก พืชสีเขียว
ถ้ามีคุณภาพหรือได้เรียนรู้
มีความรักที่แท้จริง มีอัปปมัญญาธรรม สงสารเพื่อนมนุษย์ ให้อภัย ยอมรับความคิดเห็นของเพื่อนมนุษย์ เปิดเผย อยู่ร่วมกับเพื่อนมนุษย์อย่างมีความสุข ไม่เอารัดเอาเปรียบ ไม่เห็นแก่ตัว
ถ้าไม่มีคุณภาพหรือมีพลังน้อย
จะผิดหวังเรื่องความรัก เอาแต่ใจตัวเอง ควบคุมตัวเองไม่ได้ โรคหัวใจ การไหลเวียนโลหิตไม่ดี
 
 
 
 
 
 
 
จักระ 5 วิสุทธะ (ดอกบัว 16 กลีบ)
อยู่ตรงบริเวณเส้นแนวไหล่ตัดกับกระดูกสันหลัง กระดูกคอปล้องที่ 3 ควบคุมระบบทางเดินหายใจ และผิวหนัง
 
ศูนย์พลัง
สีน้ำเงินอ่อน หรือสีฟ้า
ที่ตั้ง
ลำคอ
ธาตุ
อากาศ
ต่อมไร้ท่อและอวัยวะที่จักรควบคุม
ต่อมไธรอยด์,ต่อมพาราไธรอยด์,ต่อมน้ำลาย
หน้าที่
ควบคุมระบบทางเดินหายใจและผิวหนัง การแสดงออกทางคำพูด เสียง การสื่อความหมาย
คีย์โน้ตและเสียงสระประจำจักร
เสียงG("ซอล"),เสียงสระเอะ อิ อุ และอะ
ดนตรีที่สร้างความสมดุลประจำจักร
พิณ ออร์แกน เปียโน และเครื่องสายเสียงสูง
อัญมณี , แร่ธาตุ
เพชร พลอย สีน้ำเงินอ่อน
อาหาร
ผลไม้ พืชผัก สีน้ำเงินอ่อนหรือสีฟ้า
ถ้ามีคุณภาพหรือได้เรียนรู้
มีความสามารถในการแสดงวาทะศิลป์ สื่อความหมายได้ชัดเจน พูดแบบถ่อมตน สร้างสรรค์ มีความเมตตา เชื่อถือได้ ให้เกียรติผู้อื่น สุภาพอ่อนโยน
ถ้าไม่มีคุณภาพหรือมีพลังน้อย
ไม่สามารถสื่อความหมายได้อย่างชัดเจน มีปัญหาในการพูด ใช้ความรู้อย่างไม่ฉลาด ขาดการใช้วิจารณญาณ มีความหดหู่ ไม่ร่าเริง มีปัญหาเกี่ยวกับไธรอยด์
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
จักระ 6 อาชญะ (ดอกบัว 2 กลีบใหญ่ และกลีบย่อย 100 กลีบ)
อยู่ตรงกลางหน้าผาก กระดูกคอปล้องที่ 1 เปรียบเสมือนนัยน์ตาของปัญญา ใช้เป็นตาที่ 3 (ญาณวิเศษ) สำหรับการติดต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบน ควบคุมสติปัญญา, ความนึกคิด, ความเฉลียวฉลาด, และระบบประสาท
 
ศูนย์พลัง
สีน้ำเงิน
ที่ตั้ง
หน้าผากหรือเหนือระหว่างคิ้ว
ธาตุ
แสงสว่าง
ต่อมไร้ท่อและอวัยวะที่จักรควบคุม
ต่อมพิตูอิทารี
หน้าที่
ควบคุมสติปัญญา ความนึกคิด ความเฉลียวฉลาดและระบบประสาท เป็นตาที่สาม ใช้ชีวิตชีวาแก่สมองส่วนล่างและระบบประสาทให้เกิดญาณทัศนะ
คีย์โน้ตและเสียงสระประจำจักร
เสียงA("ลา"),เสียงสระโอ
ดนตรีที่สร้างความสมดุลประจำจักร์
พิณ ออร์แกน เปียโน และเครื่องสายเสียงสูง
อัญมณี , แร่ธาตุ
อัญมณีสีน้ำเงินแก่และแร่ธาตุสีน้ำเงินแก่
อาหาร
ผลไม้ พืชผักสีน้ำเงินแก่
ถ้ามีคุณภาพหรือได้เรียนรู้
จะสามารถเข้าสมาธิได้ง่าย เกิดวิปัสสนาญาณ มีตาทิพย์ จิตใจสงบสุข มีความจงรักภักดี สัมผัสกับสิ่งที่สัมผัสได้ยาก มีจินตนาการในทางที่ดี
ถ้าไม่มีคุณภาพหรือมีพลังน้อย
ขาดสมาธิ มีความกลัว ชอบเยาะเย้ย ถากถาง เครียด ปวดหัว สายตามีปัญหา ฝันร้าย เบื่อหน่ายโลกอย่างไม่มีเหตุผล
 
 
 
 
 
 
 
 
 
จักระ 7 สหัสสราร (ดอกบัว 1,000 กลีบ)
อยู่ตรงกลางกระหม่อม หรือจุดตัดของเส้นที่ลากจากปลายจมูก ผ่านกลางหน้าผาก ตัดกับเส้นที่ลากจากหูซ้ายไปหูขวา เปรียบเสมือนมงกุฎดอกบัว ควบคุม ระบบประสาททั้งหมดของร่างกาย เป็นศูนย์ควบคุมทุกจักระ เป็นจุดรับพลังจักรวาล และทำการกระจายไปทั่วร่างกาย เป็นจุดที่สามารถรักษาอาการเจ็บป่วย ที่จักระอื่นไม่สามารถรักษาได้โดยตรง
 
 
ศูนย์พลัง
สีม่วง
ที่ตั้ง
กระหม่อม
ธาตุ
รู้ , เจตน์จำนงค์
ต่อมไร้ท่อและอวัยวะที่จักรควบคุม
ต่อมไพนีล ไฮโพทาลามัส
หน้าที่
ควบคุมระบบประสาททั้งหมดของร่างกาย เป็นศูนย์ควบคุมทุกจักระ ให้ชีวิตชีวา ช่วยสมองส่วนบน
คีย์โน้ตและเสียงสระประจำจักร
เสียงB("ที"),เสียงสระอี
ดนตรีที่สร้างความสมดุลประจำจักระ
พิณ ออร์แกน เปียโน และเครื่องสายเสียงสูง
อัญมณี , แร่ธาตุ
เพชร , พลอย สีม่วง
อาหาร
ผลไม้ พืชผักสีม่วง
ถ้ามีคุณภาพหรือได้เรียนรู้
จะสามารถสัมผัสกับสิ่งที่เรามองไม่เห็น เช่น วิญญาณในภพภูมิต่าง ๆ เชื่อเกี่ยวกับเทพและวิญญาณระดับต่าง ๆ และสามารถติดต่อได้ มีเอกภาพ มีอุดมคติ เสียสละ เชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด และชีวิตนอกโลกว่ามีจริง
ถ้าไม่มีคุณภาพหรือมีพลังน้อย
จะขาดความกระตือรือร้น สับสนวุ่นวาย มีความลังเล ทำตัวแปลก เหินห่างสังคม แก่เกินวัย ไม่เชื่อเกี่ยวกับศาสนา
 
 
 

         
 
นอกจากนี้จากการค้นคว้าของมาสเตอร์และมหาโยคีได้ค้นพบว่าแต่ละจักระหรือแต่ละต่อมไร้ท่อนั้นจะมีความถึ่ของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเฉพาะตัวอยู่ ซึ่งถ้าได้มีการส่งผ่านคลื่นเสียงไปยังต่อมไร้ท่อเหล่านี้ โดยมีคีย์โน้ตที่เหมาะสมกับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของต่อมไร้ท่อแต่ละต่อม จะช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมไร้ท่อหรือจักระนั้นได้
 
 
 
 
 
 

 
 
 
จากภาพมีการค้นคว้าวืจัยเกี่ยวกับคีย์โน๊ตและเครื่องดนตรีที่เหมาะสมต่อการกระตุ้นจักระในร่างกาย พลังแห่งคลื่นเสียงของคีย์โน๊ตที่ค้นคว้าวิจัยโดยถูกปล่อยพลังแห่งคลื่นเสียงจากเครื่องดนตรีที่เลือกสรรแล้ว   จะส่งคลื่นเสียงก่อให้เกิดพลังแห่งการสั่นสะเทือน( vibration) ที่เหมาะสม เข้าไปก่อให้เกิดการสั่นสะเทียนภายในจักระหรือต่อมไร้ท่อเหล่านั้น   จากการศึกษาวิจัยของมาสเตอร์ทางโยคะทราบว่าการใช้คลื่นเสียงที่เหมาะสมจะช่วยฟื้นฟูความไม่สมดุลของจักระและต่อมไร้ท่อรวมทั้งอวัยวะที่จักระนั้นเกี่ยวข้อง
 
 
 

 
 
 
 
จากภาพแสดงความสัมพันธ์ของกลุ่มเซลประสาท ณ ที่ตั้งของต่อมไร้ท่อในร่างกายและจักระ พบว่ามีสายใยของกลุ่มเซลประสาทเหล่านั้นเข้าไปเชื่อมโยงกับโครงสร้างของกระดูกชิ้นต่าง ๆ บนร่างกายด้าย
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 
จากการศึกษาพบว่าเมื่อได้ส่งพลังคลื่นเสียงแห่งความสั่นสะเทือนไปยังต่อมไร้ท่อต่าง ๆ แล้ว ต่อมไร้ท่อและกลุ่มเซลประสาทบริเวณนั้นที่มีส่วนเชื่อมโยงผูกพันอยู่กับโครงสร้างของกระดูกสันหลังและอวัยวะสำคัญอื่น ๆ เมื่อได้รับการกระตุ้นจากพลังแห่งคลื่นเสียงที่เหมาะสมกับจักระหรือต่อมไร้ท่อนั้น ๆ ว กลุ่มเซลประสาทในบริเวณจ้กระหรือต่อมไร้ท่อนั้นจะเกิดการสั่นสะเทือน(vibration) ซึ่งพลังแห่งความสั่นสะเทือน(vibration) ที่ส่งออกมานอกจากจะช่วยฟื้นฟูความสมดุลย์และศักยภาพการทำงานของต่อมไร้ท่อหรือจักระนั้น ๆ แล้ว พลังแห่งความสมดุลที่เกิดขึ้นจะส่งพลังแห่งความสั่นสะเทือน(vibration) ไปยังโครงสร้างของกระดูกในร่างกายด้วย
ซึ่งจากการศึกษาระบบโครงสร้างของร่างกาย เราพบว่ากระดูกที่มีลักษณะแบนในร่างกาย เช่น กระดูกสันหลัง,กระดูกซี่โครง, กระดูกหน้าอก,กระดูกเชิงกราน และส่วนปลายบนของกระดูกแขนและขา เป็นกระดูกที่มีไขกระดูกแดงที่ทำหน้าที่สร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง (รัชฎา แก่นสาร์ และคณะ,สรีรวิทยา, กรุงเทพฯ : ยุทธรินทร์ การพิมพ์, 2540.)

 
 
 
 

 
 
จากรูปเป็นภาพแสดงไขกระดูกแดงภายในกระดูก 
 

 
จากรูปแสดงเซลในไขกระดูก ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของธาตุเหล็กจำนวนมากในร่างกายเพื่อนำใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเม็ดเลือดแดง
 
 
 
 

 
จากภาพเซลในไขกระดูกขณะกำลังผลิตเม็ดเลือดแดง
 
 ดังนั้นเมื่อจักระหรือต่อมไร้ท่อได้รับการส่งพลังแห่งการสั่นสะเทือนที่เลือกสรรอย่างเหมาะสมกับจักระหรือต่อมไร้ท่อนั้นแล้ว จักระหรือต่อมไร้ท่อนั้น ๆ จะมีการสั่นสะเทือนอย่างเหมาะสมและสมดุลย์ภายในจักระหรือต่อมไร้ท่อนั้น จากนั้นก็ส่งพลังการสั่นสะเทือนไปยังเซลประสาทและเส้นใยประสาทต่าง ๆ ที่มีการเชื่อมโยงอยู่กับกระดูกในร่างกาย โดยเฉพาะกระดูกรูปร่างแบนบริเวณกระดูกสันหลัง,กระดูกซี่โครง, กระดูกหน้าอก,กระดูกเชิงกราน และส่วนปลายบนของกระดูกแขนและขา   ซึ่งกระดูกเหล่านั้นจะได้รับการสั่นสะเทือนด้วยซึ่งในสภาวะปกติจะไม่เกิดการสั่นสะเทือนแบบนี้ (รัชฎา แก่นสาร์และคณะ ,สรีรวิทยา : ยุทธรินทร์การพิมพ์,2540 .)
พลังแห่งการสั่นสะเทือนภายในที่เกิดขึ้นจากการได้รับพลังแห่งคลื่นเสียงที่เหมาะสมกระตุ้นต่อจักระหรือต่อมไร้ท่อต่าง ๆ ในร่างกาย หรือการฝึกสมาธิจิตตามแนวทางของวิชาโยคะสูตร ของท่านมหาโยคีปตัญชลี หรือการพัฒนาสมาธิจิตในรูปแบบอื่นที่มุ่งเน้นการฝึกเพ่งพลังจิตไปทั่วร่างกาย หรือวิชาลมปราณที่มุ่งชำระล้างไขกระดูก ของจีนพลังแห่งความสั่นสะเทือนภายในดังกล่าวมีผลต่อการจัดเรียงตัวของโมเลกุลของธาตุเหล็กที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในไขกระดูกธาตุ ตั้งแต่หัวจรดเท้า ซึ่งตามทฤษฎีวิทยาศาสตร์ในวิชาแม่เหล็กไฟฟ้ากล่าวว่า ในอนุภาคใดที่มีโมเลกุลแม่เหล็กอยู่เป็นจำนวนมาก ถ้าโมเลกุลของธาตุเหล็กในอนุภาคนั้นมีการเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบแล้ว จะส่งผลให้อนุภาคนั้นมีสภาวะแม่เหล็กไฟฟ้าเกิดขึ้น
 
 

ดังนั้นสภาวะแห่งพลังแห่งการสั่นสะเทือนภายในที่เกิดขึ้นในร่างกาย ก็ย่อมจะมีผลทำให้มีผลทำให้เกิดจัดเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบของโมเลกุลของธาตุเหล็กที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในไขกระดูกตั้งแต่หัวจรดเท้า ทำให้ร่างกายของมนุษย์ผู้นั้นเปลี่ยนสภาพจากเดิม จากกายมนุษย์ธรรมดาไปสู่สภาวะกายแม่เหล็กชีวภาพ (Biomagnetic Body)
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 
เมื่อร่างกายของมนุษย์เข้าสู่สภาวะกายแม่เหล็กชีวภาพ (Biomagnetic Body) แล้ว ร่างกายของเขานั้นจะถูกพัฒนายกระดับเพิ่มขึ้นจากมนุษย์ปกติ ทำให้มีความสามารถทางพลังแห่งสัมผัสพิเศษด้านพลังแห่งธรรมชาติเพิ่มเติมจากประสาทสัมผัสเดิมที่เขามีอยู่ ทำให้เขามีประสาทสัมผัสพิเศษรับรู้ สภาวะของแม่เหล็กไฟฟ้าของสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ตามธรรมชาติ เช่น ก้อนหิน ,แร่ธาตุ,ต้นไม้,ภูเขา,สถานที่ศักสิทธิ์ต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นในธรรมชาติก็อยู่ในสภาวะแม่เหล็กไฟฟ้าอยู่แล้ว แต่เนื่องจากร่างกายของมนุษย์ปกติไม่ได้ถูกพัฒนาให้อยู่ในสภาวะกายแม่เหล็กชีวภาพ ทำให้ไม่สามารถรับสัมผัสรู้ถึงพลังแห่งธรรมชาติที่อยู่รอบตัวของเขาได้ทำให้เขาผู้นั้นมีการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ขึ้นไปอีกระดับหนึ่งทำให้มีประสาทสัมผัสที่ลึกล้ำกว่ามนุษย์ปกติ สามารถมีประสาทสัมผัสรับรู้ถึงพลังแห่งธรรมชาติที่มนุษย์ที่ยังไม่ถึงภาวะนี้สัมผัสไม่ได้ อันเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการเปิดประตูไปสู่ความเส้นทางแห่งการพัฒนาทางสมาธิ,จิตวิญญาณ,ปัญญาญาณและความคิดสร้างสรรค์ในระดับสูงส่งในระดับที่เรียกอภิมนุษย์
สำหรับผู้ที่ฝึกพัฒนาทางจิต เมื่อร่างกายของเขาถูกพัฒนาขึ้นอยู่ในสภาวะกายแม่เหล็กชีวภาพ (Biomagnetic Body) แล้ว เมื่อทำการพัฒนาวิชาพลังปราณโยคะต่อไปอย่างเข้มข้นตามแนวทางแห่งโยคะสูตร ของมหาโยคีปตัญชลีอย่างเข้มงวดแล้ว จะส่งผลทำให้สภาวะแห่งพลังของกายแม่เหล็กชีวภาพที่เกิดขึ้นแต่เดิมนั้นมีศักยภาพสูงมากยิ่งขึ้นทำให้เกิดสภาวะแม่เหล็กขึ้นในแกนกระดูกสันหลัง ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของกระแสประสาทที่เป็นประจุลบจากกระดูกสันหลังก้นกบที่เป็นขั้วลบ มาที่สมองที่เป็นขั้วบวก ทำให้เป็นการเพิ่มศักยภาพของการเดินทางของกระแสประสาทในระบบประสาทส่วนกลางอันได้แก่ไขสันหลังและสมอง ทำให้เกิดพลังแห่งประจุลบและประจุบวกอย่างมหาศาลเกิดขึ้นในร่างกาย มีผลทำให้เกิดการเคลื่อนตัวของพลังของกระแสไฟฟ้าประสาทในร่างกายอย่างมหาศาล ที่ศาสตร์ทางโยคะเรียกว่าพลังกุณฑาลินี เดินทางจากกระดูกก้นกบไปสู่สมอง      ซึ่งจะมีผลทำให้เป็นการพัฒนาศักยภาพกายและจิตตลอดจนพลังสมาธิของมนุษย์ผู้นั้นอย่างสูงส่งยิ่ง สภาวะที่เกิดขึ้นนี้ เรียกว่า สภาวะกายศักสิทธิ์ หรือ สภาวะแห่งพลังกุณฑาลินี เป็นสภาวะที่ปรารถนายิ่งสำหรับผู้ฝึกโยคะทุกคนที่มุ่งมั่นในการบรรลุธรรม ซึ่งมหาโยคีทุกคนต้องบรรลุสภาวะนี้
 
 
จะเห็นว่าเมื่อพลังแห่งกุณฑาลินี ซึ่งเป็นพลังแห่งกระแสประสาทได้เดินทางจากกระดูกก้นกบขึ้นสู่สมอง    พลังดังกล่าวจะชำระล้างและยกระดับศักยภาพสมองและพลังแห่งสมาธิจิตให้กับ ผู้นั้นอย่างมหาศาล ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างสูงสุดต่อการพัฒนาศักยภาพกายและจิตของมนุษย์ 
 
 
 
บทที่ 3
ดนตรีสวรรค์เพื่อการพัฒนาจักระและสมาธิระดับสูง
ดนตรีสวรรค์เป็นดนตรีที่สร้างสรรโดยมาสเตอร์ทางโยคะในระดับสูง โดยมาสเตอร์เหล่านั้นเป็นผู้ที่มีความสามารถพิเศษทางด้านสมาธิจิต ได้ค้นคิดหาแนวทางเพื่อพัฒนาศักยภาพทางสมาธิจิตต่อสานุศิษย์ของตน จึงได้มีการผลิตดนตรีที่มีคลื่นเสียงต่าง ๆที่มีความสอดคล้องเหมาะสมต่อการกระตุ้นการพัฒนาของจักระต่าง ๆ ในร่างกาย ที่ให้คลื่นเสียงพิเศษออกมาที่เชื่อกันว่าจะสามารถมีอิทธิพลสูงต่อการพัฒนาพลังสมาธิจิตเป็นอย่างมาก ซึ่งในแต่ละศาสนาก็มีการผลิตดนตรีทางศาสนาออกมามีลักษณะต่าง ๆ กันตามแต่พื้นฐานของความเชื่อของแต่ละศาสนานั้น ๆ 
ดนตรีสวรรค์เป็นดนตรีที่สร้างสรรโดยโยคะมาสเตอร์ ที่มีความสามารถพิเศษทางด้านสมาธิจิต โดยผลิตเป็นดนตรีที่ให้คลื่นเสียงเฉพาะซึ่งจะช่วยกระตุ้นการพัฒนาจิตเหนือสำนึก,พัฒนาศักยภาพสมอง,สมาธิและการทำงานของต่อมไร้ท่อในร่างกายได้เป็นอย่างดี  
โครงสร้างของดนตรีสวรรค์ประกอบด้วย ดนตรีพัฒนาจิตเหนือสำนึกเพื่อเป็นการน้อมนำตนอธิษฐานต่อสิ่งศักสิทธ์เพื่ออำนวยพรให้การฝึกสมาธิดำเนินไปได้โดยความสำเร็จผลตามที่ได้ตั้งจิตปรารถนาไว้ และดนตรีพัฒนาจักระ เป็นดนตรีที่สร้างโดยโยคะมาสเตอร์ ที่มีความสามารถพิเศษทางโสตทิพย์ได้ฟังคลื่นเสียงของจักระทั้ง 7 ที่เกิดขึ้นในร่างกายและได้นำมาผลิตคลื่นเสียงที่มีความถี่ที่เหมาะสมซึ่งจะส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานของจักระนั้น ๆ โดยผลิตเป็นดนตรีที่ให้คลื่นเสียงเฉพาะเพื่อเพิ่มพัฒนาศักยภาพของต่อมไร้ท่อในร่างกาย ดังนั้นต่อมไร้ท่อต่าง ๆ เหล่านั้นซึ่งต่างก็ควบคุมการทำงานของอวัยวะภายในต่าง ๆ อยู่แล้ว ก็จะผลิตฮอร์โมนต่าง ๆ ออกมาอย่างเหมาะสมทำให้การทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ที่ต่อมไร้ท่อเหล่านั้นควบคุมอยู่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น 
 สำหรับงานดนตรีกลุ่มนี้เป็นงานดนตรีของกลุ่มนักพัฒนาพลังจิตสายโยคะ   ในเมืองไทยมีการนำเข้ามาจำหน่ายน้อยมาก จะต้องเดินทางไปซื้อยังต่างประเทศ เช่น ในอังกฤษ,สหรัฐอเมริกา ,เยอรมัน   และราคาค่อนข้างแพงถึงแพงมาก และหายากมาก ผู้ผลิตจะมีศักยภาพในการสมาธิจิตสูงมาก ซึ่งดนตรีจะมีสไตล์ที่แผกพิเศษไม่เหมือนใคร
 
 
 
 
 
รายการซีดีดนตรีสวรรค์ (Heaven Music) 
ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ด้วยดนตรีและโยคะ
 

ลำดับ
ชื่อชุดดนตรี
ผู้แต่ง/ผู้ผลิต
 
1
Heaven Music Low Level
( สำหรับนักผู้ฝึกวิชาพลังจักรวาล,เด็กและผู้เริ่มต้นฝึกจิต)
ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ด้วยดนตรีและโยคะ
2
Heaven Music Middle Level
( สำหรับผู้ฝึกวิชาพลังจักรวาลเด็กและผู้เริ่มต้นฝึกจิต)
ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ด้วยดนตรีและโยคะ
3
Heaven Music High Level
( สำหรับผู้ฝึกวิชาพลังจักรวาลและผู้ต้องการพัฒนาสมาธิระดับสูง)
ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ด้วยดนตรีและโยคะ
4
Super Heaven Music High Level
( สำหรับผู้ฝึกวิชาพลังจักรวาลและผู้ต้องการพัฒนาสมาธิระดับสูง)
ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ด้วยดนตรีและโยคะ
5
ดนตรีพัฒนาจักระ 1
Muladhara Chakra
( สำหรับผู้ฝึกวิชาพลังจักรวาลและผู้ต้องการพัฒนาสมาธิระดับสูง)
ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ด้วยดนตรีและโยคะ
6
ดนตรีพัฒนาจักระ 2
Svadhistana Chakra
( สำหรับผู้ฝึกวิชาพลังจักรวาลและผู้ต้องการพัฒนาสมาธิระดับสูง)
ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ด้วยดนตรีและโยคะ
7
ดนตรีพัฒนาจักระ 3
Manipura Chakra
( สำหรับผู้ฝึกวิชาพลังจักรวาลและผู้ต้องการพัฒนาสมาธิระดับสูง)
ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ด้วยดนตรีและโยคะ
8
ดนตรีพัฒนาจักระ 4
Anahata Chakra
( สำหรับผู้ฝึกวิชาพลังจักรวาลและผู้ต้องการพัฒนาสมาธิระดับสูง)
 
ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ด้วยดนตรีและโยคะ
ลำดับ
ชื่อชุดดนตรี
ผู้แต่ง/ผู้ผลิต
 
9
ดนตรีพัฒนาจักระ 5
Vishuddhi Chakra
( สำหรับผู้ฝึกวิชาพลังจักรวาลและผู้ต้องการพัฒนาสมาธิระดับสูง)
ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ด้วยดนตรีและโยคะ
10
ดนตรีพัฒนาจักระ 6
Ajana Chakra
( สำหรับผู้ฝึกวิชาพลังจักรวาลและผู้ต้องการพัฒนาสมาธิระดับสูง)
ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ด้วยดนตรีและโยคะ
11
ดนตรีพัฒนาจักระ 7
Sahasrara Chakra
( สำหรับผู้ฝึกวิชาพลังจักรวาลและผู้ต้องการพัฒนาสมาธิระดับสูง)
ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ด้วยดนตรีและโยคะ
12
Super Heaven Music I
( สำหรับผู้ฝึกวิชาพลังจักรวาลและผู้ต้องการพัฒนาสมาธิระดับสูง)
ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ด้วยดนตรีและโยคะ
13
Super Heaven Music II
( สำหรับผู้ฝึกวิชาพลังจักรวาลและผู้ต้องการพัฒนาสมาธิระดับสูง)
ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ด้วยดนตรีและโยคะ
14
 
 
15
 
 
16
 
 
17
 
 
18
 
 
19
 
 
20
 
 
21
 
 
22
 
 
23
 
 
24
 
 
25
 
 
26
 
 
 
 
 
27
 
 
28
 
 
29
 
 
30
 
 
31
 
 
32
 
 
33
 
 
34
 
 
27
   
28
 
 
29
 
 
30
 
 
31
 
 

 
แต่เนื่องจากว่าคลื่นเสียงจากดนตรีทั้งสองกลุ่มนี้มีพลังกระตุ้นต่อต่อมไร้ท่อหลายระดับ ตั้งแต่ระดับต้น ระดับปานกลาง และระดับสูงที่มีพลังงานกระตุ้นรุนแรงมาก ให้เลือกใช้ดนตรีให้เหมาะกับตน สำหรับแนวทางที่เหมาะสมการใช้ดนตรีประเภทนี้ต้องอยู่ในการควบคุมดูแลของผู้รู้ในด้านนี้เท่านั้น ถ้าซื้อหาเองนำไปใช้เองโดยไม่ได้รับการแนะนำจากมาสเตอร์ทางจักระที่ได้รับการศึกษาในเรื่องดนตรีพลังจักรามาก่อนอย่างลึกซึ้ง อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงบางประการได้ เปรียบเสมือนกับดนตรีชุดนี้เหมือนยาอันตราย มีคุณมากก็จริงแต่การใช้ต้องระมัดระวัง การใช้ต้องอยู่ในการควบคุมของแพทย์ ซึ่งในที่นี้ได้แก่มาสเตอร์ทางโยคะผู้มีความชำนาญในดนตรีประเภทนี้เท่านั้น ที่จะรับฟังดนตรีชุดนี้รับฟังได้ที่ห้องสมุดคลื่นเสียงหรือติดต่อกับผู้เขียนโดยตรง เพื่อที่จะได้แนะนำการใช้ได้อย่างถูกต้อง  ผู้เขียนจึงจำเป็นต้องปกปิดชื่อซีดีดนตรีทางการค้าดังกล่าวเพื่อป้องกันปัญหาที่เป็น Side effect ที่อาจเกิดขึ้นได้ถ้าขาดความรู้ในการใช้
 
 
 
 
 
 
 
 
ผู้สนใจชุดซีดีกลุ่มดนตรีสวรรค์และดนตรีพัฒนาจักระ
ในรายการที่ระบุไว้ในหนังสือฉบันนี้
ทุกแผ่นราคาแผ่นละ 200 บาท
-----------------------------------------------------------------------------------
ติดต่อสั่งซื้อได้ที่อาจารย์อริยะ สุพรรณเภษัช 
โรงเรียนถนอมพิศวิทยา 
1808 ระหว่างซอยลาดพร้าว 62-64 ถ. ลาดพร้าว อ.วังทองหลาง กทมโทร 081-8033630 Fax 02-5394969
ธนาณัติ สั่งจ่าย ปณจ.ลาดพร้าว เพียงแห่งเดียว
หรือโอนเงินผ่าน ธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาโชคชัย 4 ซอย 22 
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่   084-0-08542-7
เจ้าของบัญชี นายอริยะ สุพรรณเภษัช
**********************************************************************






Copyright © 2010 All Rights Reserved.

โรงเรียนถนอมพิศวิทยา
ที่อยู่ :  เลขที่1810 เขต :  วังทองหลาง แขวง : วังทองหลาง
จังหวัด :กรุงเทพมหานคร.     รหัสไปรษณีย์ : 10310
เบอร์โทร : 02-5394968      มือถือ :  0818033630
อีเมล : ariyasound@thaimail.com
เว็บไซต์ : www.ariyasound.com